รีวิวงานแต่งสวยหวานในธีมสวนดอกไม้ จัดงาน 3 พิธี 4 ช่วง ใน 1 วัน @Eastin Grand Hotel Sathorn Bangkok

Eastin Grand Hotel Sathorn Bangkok ห้องบอลรูมเพดานสูงสีโรสโกลด์ บริการดี ให้ความรู้สึกพิเศษ คุ้มค่ากับงบประมาณ

       ปุ้มกับพี่นันท์ (เจ้าบ่าว) อยากจัดงานแต่งที่มีทั้งพิธีหมั้นแบบจีน พิธีแต่งงานที่โบสถ์ และงานเลี้ยงฉลองเย็นภายในวันเดียว เนื่องจากปุ้มนับถือศาสนาคริสต์ เลยมองหาสถานที่ย่านสาทรใกล้กับโบสถ์อัสสัมชัญที่เราจัดงาน เพื่อให้แขกเดินทางสะดวกค่ะ

       ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะจัดงานที่โรงแรมเลยค่ะ เพราะรู้สึกว่าแออัด ดูไม่โปร่ง แต่พอมาชมสถานที่จริงของ Eastin Grand Hotel Sathorn Bangkok (โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ) ห้องบอลรูมโทนสีโรสโกลด์ ตกแต่งสวยเข้ากัน แถมเพดานสูงตรงกับที่เราอยากได้ ทีมงานดูแลดี รู้สึก Special มากค่ะ ส่วนเรื่องงบประมาณก็สำคัญ ถ้าเลือกสถานที่ข้างนอกจะไม่ได้รับเซอร์วิสระดับนี้ แถมยังมีค่านำเข้าอื่น ๆ อีก ที่นี่จึงตอบโจทย์เราได้หมดทุกด้านเลยค่ะ

งานสวยหวานและหรูหรา ในธีมสวนดอกไม้ดุจเทพนิยาย

       เราเลือกธีมสีชมพู พีช ครีม ทอง และโรสโกลด์ค่ะ เดรสโค้ดก็จะเลือกธีมสีนี้เช่นกัน เพราะมีความหวานแล้วก็ดูหรูหราด้วยค่ะ ส่วนคอนเซ็ปต์การตกแต่งคือธีมสวนดอกไม้ เพราะชอบและอยากได้ดอกไม้เยอะ ๆ ค่ะ จะมีทั้งดอกไม้จริงและดอกไม้ปลอมแซม ๆ กันไป พร้อมเติมด้วยดอกไม้สีฟ้าเพื่อไม่ให้ดูหวานเลี่ยนเกินไปค่ะ

       พิธีหมั้นช่วงเช้า เราเลือกการตกแต่งแบบที่ชอบและมีความหมาย บนเวทีจะมีโลโก้ชื่อบ่าวสาวฟอนต์ตัวเขียนที่เราสั่งทำ ฉากเป็นโครงเหล็กสีโรสโกลด์เข้ากับการตกแต่งของโรงแรม ประดับด้วยดอกไม้และไฟรูปเชิงเทียน ทำให้พอถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมากค่ะ

       ส่วนงานฉลองตอนเย็น เมื่อขึ้นลิฟต์มาจะเป็นทางเดินเข้าสู่ห้องบอลรูม ระหว่างสองข้างทางเดินตั้งแกลเลอรีรูปพรีเวดดิ้งตกแต่งดอกไม้ค่ะ เมื่อเดินผ่านเข้าไปจะเจอกับอุโมงค์สีขาวตกแต่งด้วยริ้วผ้า ราวกับว่าเข้าอุโมงค์ไปโผล่ที่สวนดอกไม้ ซึ่งก็คือแบ็กดรอปเลยค่ะ จุดนี้เราตกแต่งโดยยึดคอนเซ็ปต์สวนดอกไม้ แต่งกรอบดอกไม้ในโทนสีขาว ชมพู พีช และฟ้า มีคริสตัลห้อยลงมาเหมือนหยดน้ำ และมีโลโก้บ่าวสาวสีโรสโกลด์เข้ากันค่ะ

       สำหรับการตกแต่งเวทีในห้องสุรศักดิ์บอลรูม ยังคุมโทนสีดอกไม้ที่เราชอบเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมเข้ามาคือกิมมิกผีเสื้อตัวใหญ่ เหมือนกำลังบินอยู่ในสวนเลยค่ะ ด้านบนแต่งผ้าโปร่งบางได้เอฟเฟกต์เป็นริ้ว ๆ และมีการจัดไฟที่แตกต่างจากจุดแบ็คดรอปด้วย ทำให้ออกมาดูสวยเหมือนในเทพนิยายเลยค่ะ

จัดงานหมั้นอบอุ่นและเรียบง่าย ปรับพิธีให้สบายใจทั้งบ่าวสาว

       งานช่วงเช้าเราเชิญแค่ญาติพี่น้องและครอบครัวเท่านั้นค่ะ ด้วยความที่พี่นันท์เป็นคนไม่ค่อยชอบพิธีการที่ยุ่งยาก ส่วนบ้านปุ้มก็ไม่ใช่จีนจ๋า จึงปรึกษากับครอบครัวทั้งสองฝ่ายว่าจะโอเคไหมถ้าไม่มีการแห่ขันหมากค่ะ ถึงแม้ว่าจะตัดช่วงนี้ออก แต่เรายังนำพานขันหมากมาตั้งไว้ แล้วเริ่มพิธีด้วยช่วงเจรจาสู่ขอค่ะ โดยพี่นันท์และคุณพ่อคุณแม่จะสู่ขอกับคุณพ่อคุณแม่ของปุ้ม เสร็จแล้วก็จะมารับตัวปุ้มค่ะ

       พอพี่นันท์ผ่านประตูเงิน-ประตูทอง 3 ประตู ตั้งใจให้มีนิดหน่อยพอเป็นกิมมิกค่ะ และรับตัวเจ้าสาวเรียบร้อยแล้ว เราก็จะกลับเข้ามาในห้องพิธี คุณพ่อคุณแม่กล่าวอวยพร สวมแหวน ทานขนมอี๋ โปรยดอกไม้และยกสินสอด ยกน้ำชา จากนั้นถ่ายรูปร่วมกันก็จบพิธีหมั้นในช่วงเช้าค่ะ

       ในช่วงเช้าเรามีซุ้มอาหารที่นำเข้ามาเป็นข้าวต้มปลา Coffee break น้ำผลไม้ต่าง ๆ ก็มีค่ะ แล้วพอหลังเสร็จสิ้นพิธีก็จะเสิร์ฟข้าวมันไก่อีกรอบ ให้แขกทานกันระหว่างรอไปงานที่โบสถ์ค่ะ

งานฉลองที่มีครบทุกรส ทั้งสนุก ซึ้ง และเซอร์ไพรส์

       ช่วงบ่ายเราไปจัดงานแต่งกันที่โบสถ์อัสสัมชัญ ซึ่งเชิญแขกที่นับถือศาสนาคริสต์มาร่วมงานด้วย สำหรับแขกจากงานหมั้นช่วงเช้าที่ไม่ได้ไปโบสถ์ ทางโรงแรมก็ใจดีเปิดห้องจัดงานและเปิดแอร์ให้ญาติ ๆ ได้มีที่นั่งรอด้วยค่ะ 

       เมื่อถึงช่วงงานฉลองเย็นที่แขกทยอยเดินทางมาถึง ทุกคนจะได้รับของชำร่วยที่จุดลงทะเบียนค่ะ เป็น Card holder ซึ่งมีให้เลือก 3 สีเลย ระหว่างรอบ่าวสาวลงมา เราจะฉายรูปบนจอ LCD พร้อมเล่นเพลงแนวอะคูสติกแจ๊สจากวงดนตรี โดยเพิ่มโซนโฟโต้บูธที่เราตั้งใจอยากให้ญาติและเพื่อน ๆ ไปถ่ายกัน เมื่อเราแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็ลงมาถ่ายรูปร่วมกับแขกตรงแบ็คดรอปค่ะ

       เราไม่มี presentation แต่จะมีคลิปงานในช่วงเช้าฉายก่อนเปิดตัวบ่าวสาว จากนั้นจะเริ่มพิธีโดยให้เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวฝั่งละ 2 คนขึ้นมากล่าวอวยพร แทนที่จะเป็นประธานผู้ใหญ่ค่ะ เพราะไม่อยากดูเป็นทางการเกินไป

       ช่วงที่ปุ้มประทับใจเป็นพิเศษคือการกล่าวความในใจ เราพูดจากความรู้สึกตอนนั้นเลยค่ะ แต่เราเซอร์ไพรส์มากที่พี่นันท์ซึ่งปกติไม่ได้เป็นคนพูดเก่ง เขาพูดเยอะและซึ้งมาก นอกจากนี้เราก็เซอร์ไพรส์ครอบครัวด้วยการพูดถึงพ่อแม่และพี่น้องด้วย ซึ่งเขาไม่รู้ตัวมาก่อน แขกก็ประทับใจที่งานแต่งมีโมเมนต์แบบนี้ค่ะ

       ต่อจากนั้นจะมีเกม Kahoot กับเกมวัดดวงให้เล่นกัน ใครตอบถูกและเร็วที่สุดกับคนที่ดวงดีที่สุด ก็รับรางวัลเป็น Gift Voucher ไปเลยค่ะ จากนั้นก็เข้าสู่ช่วงจุดเชิงเทียน ตัดเค้ก ดึงริบบิ้นช่อดอกไม้เจ้าสาว แล้วนำเค้กไปให้คุณพ่อคุณแม่ค่ะ

       เราจัดเลี้ยงอาหารแบบบุฟเฟต์ ที่นี่พิเศษตรงที่มี 2 ไลน์ ไม่เหมือนงานแต่งอื่นที่เราเคยไป ที่ทุกคนจะไปรุมตักอาหารกันอยู่ที่เดียว พอมี 2 ไลน์ก็ทำให้แขกไม่ต้องรอนานค่ะ ส่วนอาหารก็มีแต่คนชมว่าอร่อยทั้งคาวหวานเลยค่ะ ฝีมือสมกับที่เป็นโรงแรม 5 ดาว เราเลือกเมนูกันเองจากที่ชอบและมีเนื้อสัตว์หลากหลายค่ะ อาทิเช่น อกเป็ดอบกับซอสเครื่องเทศจีน หมูสันในอบห่อผลไม้แห้งกับซอสลูกเกด แกงเขียวหวานเนื้อ รวมมิตร และเค้กกาแฟค่ะ

       ท้ายสุดเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ปุ้มชอบร้องเพลงอยู่แล้วเลยร้องเปิดตัวเข้าไป วงดนตรีก็เอนเตอร์เทนดีมาก วันนั้นเราเซอร์ไพรส์วันเกิดเพื่อนเจ้าสาวคนนึงด้วย ปุ้มรีเควสต์เค้กไป ทางโรงแรมเขาก็จัดหามาให้ค่ะ ส่วนพี่นันท์ที่บอกว่าจะนั่งจิบไวน์ชิล ๆ กลับสนุกจนยืนเต้นเลย จากที่เจ้าบ่าวไม่อยากมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ตอนหลังติดใจจนอยากขอเพิ่มอีกชั่วโมงเลยค่ะ

ประทับใจทีมงานและซึ้งใจครอบครัวที่คอยช่วยเหลือ

       เราประทับใจทีมงานทุกทีมเลยค่ะ โดยเฉพาะโรงแรม ตั้งแต่คุณแป้ง เซลล์ที่คอยช่วยเหลือดีมาก เป็นกันเอง และสอบถามตลอด ส่วนพนักงานก็ทำงานกันแบบ Professional เซอร์วิสเต็มที่และอำนวยความสะดวกทุกอย่างเลยค่ะ ช่วยรันคิว จัดชุด และพาไปถ่ายรูปตรงที่สวย ๆ ด้วยค่ะ

       สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือการเทิร์นห้องช่วงงานฉลองเย็นค่ะ ทีม Area ของโรงแรมจัดการดีมาก set up ห้องให้ใหม่ไว คอยประสานงานกับทีมตกแต่งและออแกไนซ์เรื่องการขนย้ายของ อำนวยความสะดวกให้ทีมทั้งงานเช้า-งานเย็นเลยค่ะ จากตอนแรกที่กังวลว่าจะไม่ทัน กลายเป็นว่าแค่ครึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งชั่วโมงเองก็จัดเสร็จแล้ว เรายังแปลกใจเลย เพราะว่ามีดอกไม้เยอะมาก

       สุดท้ายอยากขอบคุณครอบครัวและญาติสนิท ที่มีส่วนช่วยเหลือเราในวันงาน โดยเฉพาะตอนเย็น ขอบคุณที่เขายอมเหนื่อยและสู้ไปกับเรา เพราะงานเช้าถึงเย็นเลย ขอบคุณแขกทุกคนที่เข้าใจด้วยค่ะ

คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว

ลองชุดหลาย ๆ ร้าน : ถึงแม้จะรีเสิร์ชมาแล้วว่าอยากได้ร้านนี้ แบบนี้ แต่พอไปลองชุดจริง สไตล์ที่ชอบอาจจะไม่เข้ากับเราและไม่ใช่ตัวเรา การได้ไปลองหลาย ๆ ร้านจะทำให้รู้ว่าหุ่นเราเข้ากับทรงแบบไหน และอาจจะเจอชุดอื่นที่เหมาะกับเรามากกว่าด้วยค่ะ

ไม่มีเวลา ต้องจ้างแพลนเนอร์ : ถ้าเป็นคนดีเทลเยอะ แต่ไม่มีเวลาจัดการเองหมดทุกอย่าง ก็ต้องจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์เลย เพราะเขาละเอียดมาก ๆ ช่วยจัดการให้ตามความต้องการของบ่าวสาวได้ทั้งหมด

บ่าวสาวคุยกันเยอะ ๆ : งานแต่งมีครั้งเดียวในชีวิต แต่ละคนอาจมีคอนเซ็ปต์หรือความชอบที่แตกต่างกัน อยากให้คนสองคนที่จะแต่งงานคุยกันเยอะ ๆ ว่าอยากจัดงานออกมาแบบไหน จำนวนแขก จะเชิญใครบ้าง สถานที่ไหนดีกว่ากัน เพื่อให้เป็นตัวตนของทั้งสองคนมากที่สุด และที่สำคัญควรตัดสินใจร่วมกัน เพื่อลดความผิดพลาด

มีเวลาเตรียมตัวยิ่งเยอะ ยิ่งดี : การมีเวลาเตรียมงานนานทำให้เรามีเวลาตัดสินใจมากขึ้น ได้เปรียบเทียบว่าชอบเจ้าไหนที่สุด หรือตอบโจทย์บัดเจ็ทดีหรือยัง โดยเฉพาะอะไรที่ต้องจองล่วงหน้าข้ามปีอย่างช่างแต่งหน้า ยิ่งมีเวลาก็ยิ่งมีตัวเลือกเยอะ