รีวิวงานแต่งจัดแยกวัน ได้ 2 ฟีลลิ่ง ทั้งหมั้นอบอุ่นและฉลองสนุกเต็มที่ @Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence

Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence โรงแรมสวย บรรยากาศอบอุ่น มีพื้นที่จัดเลี้ยงรับแสงธรรมชาติ  

       เจกับพี่พงษ์ (เจ้าบ่าว) อยากได้สถานที่จัดงานอินดอร์ที่สามารถรับแสง Daylight ได้ด้วย เพราะถ้าจัดงานแต่ง Outdoor กลัวฝนตกค่ะ เมื่อรู้ความต้องการก็หาโรงแรมในเว็บไซต์ SabuyWedding จนมาเจอ Bliston Suwan Park View Hotel & Serviced Residence (โรงแรม บลิสตัน สุวรรณ พาร์ควิว) หลังจากดูสถานที่จริง รู้สึกว่าตรงใจ ได้พื้นที่จัดงานที่สามารถแบ่งฟังก์ชั่นตามประเภทงานได้ ทั้งงานหมั้น เลี้ยงฉลอง และอาฟเตอร์ปาร์ตี้ อีกทั้งขนาดห้องกำลังดี เป็นส่วนตัว ให้ฟีลอบอุ่น และมีที่จอดรถเพียงพอด้วยค่ะ

ตั้งใจจัดพิธีหมั้นสุดอบอุ่นเพื่อครอบครัว

       เราตั้งใจจัดงานหมั้นและงานเลี้ยงฉลองแยกวันกัน เพราะต้องการแยกกลุ่มแขกค่ะ ช่วงงานหมั้นจะมีแค่ญาติผู้ใหญ่ของสองครอบครัวเป็นหลักค่ะ โดยเราใช้การตกแต่งที่มีอยู่ในแพ็กเกจของโรงแรมและบรีฟว่า อยากได้ดอกไม้โทนสีขาวและสีเขียว เพื่อให้ดูสบายตา ตกแต่งแค่ตรงผนังกระจก ติดโลโก้ที่ทำจากวัสดุอะลูมิเนียม แซมด้วยกรอบรูปภาพบ่าวสาวค่ะ

       ช่วงแรกเจมาในชุดหมั้นสีแดง เพราะทำพิธีแบบจีนค่ะ เริ่มด้วยแห่ขันหมาก เสร็จแล้วจะไปสวมแหวนก่อนตามฤกษ์ ต่อด้วยพี่พงษ์เล่นเกมผ่านด่านประตูเงิน-ประตูทอง แล้วถึงมารับตัวเจที่นั่งรออยู่ตรงระเบียง เรียบร้อยแล้วเราก็กลับมาทานขนมอี๋และยกน้ำชาค่ะ

       จบคิวนี้ เราถึงไปเปลี่ยนชุดและลงมาจดทะเบียนสมรสร่วมกันค่ะ หลังจากนั้น แขกจะทยอยเข้าไปในห้องบอลรูม ที่เราจัดเลี้ยงอาหารเที่ยงให้แขกเป็นเมนูบุฟเฟต์ไทย เช่น เป็ดย่างซอสส้ม ยำสามกรอบ ซี่โครงหมู และยังมีไอศกรีมของทางโรงแรมด้วยค่ะ เป็นเมนูที่ขายดีสุด ๆ หมดเร็วมากค่ะ

งานเลี้ยงฉลองต่ออาฟเตอร์ปาร์ตี้ เป็นกันเองและสนุกเต็มที่กับก๊วนเพื่อน

       มาถึงวันฉลองสมรส เราเน้นเพื่อน ๆ เป็นหลักค่ะ คนในครอบครัวมาร่วมงานไม่ถึง 5 คน พอเป็นงานเลี้ยงฉลอง เราเลยเลือกสีกลุ่ม Sunset เช่น สีส้ม เหลือง เบจ น้ำตาล โอลด์โรส และสีชมพูค่ะ ด้านนอกที่เราเคยใช้ทำพิธีหมั้น เราเปลี่ยนเป็นจุดถ่ายภาพกับแขก ซึ่งใช้โลโก้บ่าวสาวเดิม แต่เพิ่มดอกไม้ตามธีมสีเข้าไปด้วยค่ะ

       ส่วนโครงสร้างอื่น ๆ เรานำเข้าทีมตกแต่งมาจัดการเพิ่มค่ะ มีมุมโครงไม้พับได้ที่เอาไว้เป็นมุมรวมรูปให้ระลึกถึงเรื่องราว ความสัมพันธ์ของเรากับเพื่อน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันค่ะ โดยเพื่อนก็จะมายืนดูรูปกันว่ารูปตัวเองอยู่ตรงไหน และเป็นอีกจุดที่แขกมาถ่ายรูปได้เช่นกันค่ะ นอกจากนี้ยังมีภาพบ่าวสาวด้วยค่ะ ทั้งไซส์เล็กที่วางบนโต๊ะและไซส์ใหญ่ปริ้นท์ลงแคนวาส ตั้งวางเรียงชิดผนังค่ะ

       อีกกิมมิกของงานนี้ คือ เราไม่ใช้สมุดอวยพรค่ะ แต่เราเลือกใช้ภาพวาดบนแคนวาส เป็นรูปต้นไม้ตั้งไว้ใกล้ภาพบ่าวสาว เพื่อให้แขกเขียนอวยพร ปั๊มนิ้วมือตกแต่งเป็นใบไม้ พร้อมเซ็นชื่อลงไปได้ ซึ่งหลังจบงานแล้วเราสามารถนำป้ายนี้ไปตกแต่งบ้านได้ด้วยค่ะ

       สำหรับในห้องบอลรูม เราตกแต่งน้อย เพราะเน้นบรรยากาศของงานมากกว่า บนเวทีจะมีแค่ป้ายชื่อค่ะ ส่วนโต๊ะจัดเลี้ยงมีทั้งแบบ Long Table สำหรับ 40 ที่นั่ง และที่เหลือเป็นโต๊ะค็อกเทล ประดับเทียนและดอกไม้เพื่อความสวยงามและเสริมบรรยากาศให้งานดูอบอุ่นยิ่งขึ้นค่ะ

       เราตั้งใจให้งานฉลองรวมเพื่อน ๆ 200 กว่าคนมาสนุกปาร์ตี้กัน จึงไม่เน้นทางการเลยค่ะ เริ่มด้วยให้เพื่อน ๆ มาลงทะเบียนรับ Welcome Drink สดชื่น ๆ เราเสิร์ฟในสลิ้งค์เข็มฉีดยาค่ะ มีทั้งแบบแอลกอฮอล์และน้ำหวานให้เลือกค่ะ

       งานเราไม่มีของชำร่วย แต่เลือกเขียนการ์ดที่มาจากความรู้สึกจริง ๆ แขกจะได้รับการ์ดนี้ก่อน พอแขกมาถ่ายรูปร่วมกับเรา เราจะบันทึกภาพด้วยกล้องโพลารอยด์ เสร็จแล้วจะให้ภาพนั้นแก่แขกกลับบ้านไปด้วยค่ะ  

       หลังจากนั้นก็ได้เวลาเปิดวีดีโอพรีเซนเทชั่น ซึ่งเป็นเรื่องราวของเรา รวมถึงคลิปตอนพี่พงษ์ขอแต่งงานเมื่อช่วงเดือนมกราคมด้วยค่ะ จบแล้วบ่าวสาวก็เปิดตัวเข้าไปในงานอย่างเรียบง่าย เราไม่มีประธาน มีเพียงให้เพื่อน ๆ บ่าวสาวรวม 8-9 คนมาพูดอวยพรจากด้านล่างเวทีค่ะ

       หลังพูดครบทุกคน เราก็ไปเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าสู่ช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ระหว่างนี้แขกจะมูฟไปยังห้องอาหารของที่นี่ ซึ่งรองรับแขกได้ประมาณ 80 ท่าน เมื่อเราแต่งตัวเสร็จแล้ว ก็กลับมารินแชมเปญทาวเวอร์ ค่ะ ที่เหลือก็สนุกไปกับดนตรี วงแรกเป็นวงดนตรีสดก่อน แล้วต่อด้วยดีเจเปิดแผ่นค่ะ

       สำหรับอาหารจัดเลี้ยง เราเลือกเมนูค็อกเทลบวกซุ้มอาหาร เช่น ข้าวหน้าเป็ด ข้าวต้ม และเพิ่มไอศกรีมเข้ามาเหมือนเดิม มีทั้งไอศกรีมรสพิตตาชิโอ ชาไทย ชาเขียว และรสผลไม้ โดยรวมแขกชอบรสชาติอาหารมากและไอศกรีมก็ยังขายดีเช่นเคย หมดเกลี้ยงก่อนงานจบอีกค่ะ บางคนเดินมาบอกว่า กินคนเดียวไป 6 แท่งค่ะ

บ่าวสาวเป็นปลื้ม บรรยากาศตรงใจ ได้โรงแรมดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

       เราได้รับคำชมกลับมาเยอะว่างานอบอุ่น มีความไพรเวท เหมือนปาร์ตี้สังสรรค์กันที่บ้าน ซึ่งเราทั้งคู่ชอบบรรยากาศที่เป็นไปอย่างที่ต้องการ ทั้งงานหมั้นและงานฉลอง โดยเฉพาะอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ที่อบอุ่นมาก แถมสนุกและมันส์กันสุด ๆ จนภาพตัดไปเลยค่ะ

       เรามองว่าพอเลือกสถานที่ดีตั้งแต่แรก ทุกอย่างจะง่ายขึ้น โรงแรมนี้มีแพ็กเกจงานแต่งที่คุ้มค่า ทำให้เซฟค่าใช้จ่ายบางอย่างไปได้ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ซัพพอร์ตงานเราได้ดี อย่างระบบเสียงที่ดังเซอร์ราวด์ทั่วห้องเลยค่ะ เรื่องการบริการของพนักงานก็สุภาพ เฟรนด์ลี่ และให้ความช่วยเหลือดีมาก ๆ ค่ะ อย่างเรื่องเครื่องดื่มแอลกฮอล์ พนักงานเสิร์ฟดี ไม่มีตกหล่น มีคนดูแลโซนบาร์น้ำโดยเฉพาะ แอลกอฮอล์ไม่หาย ทำให้ประทับใจมากค่ะ

        ที่สำคัญคือคุณอ้อ เราชอบที่เขาพยายามหาโซลูชั่นเพื่อให้ตอบโจทย์เราและจริงใจ เขาจะพูดตรง ๆ เลยว่าอะไรช่วยได้หรือไม่ได้ เราจะได้รู้และจัดการต่อ แถมคุณอ้อยังใส่ใจบ่าวสาว ทั้งจัดเตรียมอาหารให้เราหลังจบพิธีในแต่ละงาน รวมถึงเตรียมไอศกรีมให้เป็นพิเศษเพื่อนำกลับบ้านในวันเช็กเอาท์ด้วยค่ะ เพราะในวันงานก็หมดเกลี้ยง เขาใส่ใจในความรู้สึกและดีเทลเล็ก ๆ เพื่อทำให้เรามีความสุขค่ะ

คำแนะนำสำหรับบ่าว-สาว

ถามตัวเองให้ชัดว่าอยากจัดงานแบบไหน : บ่าวสาวควรตกลงกันก่อนว่าต้องการงานรูปแบบไหน มีความทางการไหม อยากแยกงานตามกลุ่มแขกหรือเปล่า เพราะหากเราเคลียร์ชัดตั้งแต่แรก ทุกอย่างที่เลือกจะโฟล์วและไปในทิศทางที่ชัดเจน  

ตกแต่งงานตามความสวยงามและพอเหมาะ : การตกแต่งงานสามารถทำให้พอเหมาะ ไม่ต้องเยอะก็สวยงามได้ โดยเฉพาะดอกไม้ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องของค่าใช้จ่าย แต่มีเรื่องของปริมาณขยะด้วย หากเปลี่ยนจากการใช้ดอกไม้มาดัดแปลงเป็นตกแต่งด้วยรูปภาพบ่าวสาว หรือโครงสร้างอย่างอื่นที่นำมาเป็นของตกแต่งบ้านได้ภายหลัง ก็จะทำให้เราไม่รู้สึกเสียดายและใช้ประโยชน์ได้อีก

จัดงานแต่งตามงบประมาณที่ไหว : บ่าวสาวควรวางแผนและตั้งบัดเจ็ตไว้ เอาแบบที่เราไหว ในขณะเดียวกันก็ต้องตั้งงบสำรองไว้ด้วย เพราะบานปลายแน่นอน อยู่ที่ว่าจะมากหรือน้อย หากมีบางอย่างที่อยากได้ ก็อยากให้จ่ายแบบไม่กระทบกับการเงินในอนาคต

นึกถึงความรู้สึกทั้งตัวเองและคนรอบข้าง : บ่าวสาวทุกคู่ย่อมอยากจัดงานแต่งในแบบที่เราต้องการ แต่ก็อย่าลืมคำนึงถึงความรู้สึกของคนในครอบครัวด้วย ควรหาความบาลานซ์และลองดูว่าอะไรที่เราทำเพื่อเขาได้บ้าง เช่น พิธีการสำคัญต่าง ๆ เพื่อจะได้งานแต่งที่มีความสุขกันทุกฝ่าย  

Photographer : Loveroom wedding, Now a nice