Le Meridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa โรงแรมวิวธรรมชาติสวยสบายตา แพ็กเกจคุ้มค่า บริการระดับ 5 ดาว
มิ้นกับเบียร์ (เจ้าบ่าว) อยากได้โลเคชั่นใกล้บ้าน และคำนึงถึงความสะดวกของแขกด้วยค่ะ ไม่อยากให้เขาเจอรถติดในเมือง เราหาสถานที่แต่งงาน จนมาที่ Le Meridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa (เลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา) ก็รู้สึกถูกใจที่สุด เพราะสถานที่สวยและขนาดพื้นที่กว้างขวาง ถึงตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ แต่บรรยากาศโดยรอบให้ฟีลสบายตา สามารถมองวิวธรรมชาติได้แบบเต็มที่ และมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากค่ะ
นอกจากนี้ โรงแรมยังมีที่จอดรถเยอะ สะดวกสบาย ราคาแพ็กเกจงานแต่งและอาหารจัดเลี้ยงก็สมเหตุสมผลค่ะ ที่สำคัญ เราประทับใจคุณเบนและทีมงาน ที่ดูแลคู่เราดีมากตั้งแต่วอล์กอินเข้าไปเลยค่ะ และด้วยดีกรีของโรงแรมระดับ 5 ดาว เราเลยมั่นใจเรื่องการบริการว่าต้องดีแน่นอนค่ะ
ตกแต่งงานเรียบง่ายสะอาดตา ไม่แย่งซีนความสวยของสถานที่
เราใช้ธีมสีเดียวกันตกแต่งทั้งงานหมั้นและงานฉลองค่ะ โดยเน้นเป็นสีขาวมากกว่า 90% เพราะอยากให้ดูเรียบง่าย สะอาดตา และแซมด้วยสีเขียวนิดหน่อย ไม่ให้ดูขาวโล้นจนเกินไป และไม่ให้สีของดอกไม้และการตกแต่ง ไปแย่งซีนสีภายในห้องจัดเลี้ยงทั้ง 2 ห้องที่เป็นสีม่วงด้วยค่ะ
ส่วน Dress Code ของแขก เราสองคนเห็นตรงกันว่าจะไม่กำหนดธีมสี เพราะอยากให้คนที่มาร่วมงานใส่ชุดอะไรก็ได้ ขอเพียงเขามั่นใจและเป็นตัวเองค่ะ
การตกแต่งงานหมั้นช่วงเช้า พาร์ทเนอร์ของโรงแรมจะดูแลให้ค่ะ โดยด้านหลังจุดทำพิธีจะตั้งโครงวงกลม ตกแต่งด้วยดอกไม้ไล่ตามโครงสร้าง และมีป้ายชื่อบ่าวสาวค่ะ
ส่วนการตกแต่งของงานเลี้ยงฉลองที่จัดคนละห้องกันนั้น บริเวณโถงรับรอง เราจะตั้งโต๊ะลงทะเบียนและวางของชำร่วยเป็นเทียนกระป๋อง โฟโต้บูธ และโซนแกลเลอรีบ่าวสาวที่ห้อยภาพบนโครงเหล็กพ่นสีทอง สลับกับวางบนขาตั้ง แต่งดอกไม้ที่พื้น ตั้งขนาบข้างทางไปถึงแบ็คดรอปถ่ายภาพฉากสีขาวล้วน แต่เลือกโครงสร้างให้มีเคิร์ฟ เพื่อไม่ให้ดูเรียบเกินไป และตกแต่งด้วยดอกไม้ตามธีมสีค่ะ
ในห้องบอลรูม เราไม่ได้ทำฉากสี่เหลี่ยมปิดทึบบนเวทีงานเลี้ยงฉลอง เพราะผนังโรงแรมเป็นหินอ่อนที่มีความสวยงามอยู่แล้ว เราจึงเลือกตกแต่งพุ่มดอกไม้ชูช่อขึ้นมา 2 ข้าง และติดโลโก้บ่าวสาวที่ผนังแทนค่ะ ส่วนตรงโต๊ะแชมเปญทาวเวอร์ก็ตกแต่งด้วยดอกไม้สีขาวค่ะ
งานช่วงเย็น เราเลือกจัดโต๊ะจัดเลี้ยงแบบผสมผสานกัน โดยจัดโต๊ะ Long Table ให้สำหรับแขก VIP ส่วนที่เหลือจะเป็นโต๊ะกลมค่ะ
พิธีหมั้นเรียบง่ายตามธรรมเนียม พร้อมฉลองสุดโรแมนติกด้วยเสียงแซกโซโฟน
งานแต่งคู่เราเป็นพิธีจีนผสมไทย และค่อนข้างเรียบง่ายค่ะ ช่วงก่อนพิธีหมั้นจะเริ่มขึ้น เบียร์เซอร์ไพรส์มิ้นด้วยการขอแต่งงานด้วยค่ะ เพราะคู่เรายังไม่เคยมีโมเมนต์นี้มาก่อน
จากนั้นพิธีการจะเริ่มต้นด้วยฝ่ายเจ้าบ่าวเดินแห่ขันหมาก (แบบไม่มีการโห่) เพื่อเข้าไปคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวก่อน เรียบร้อยแล้ว เบียร์และเพื่อน ๆ จะเดินมารับตัวมิ้นที่นั่งรออยู่ในห้องสปาของทางโรงแรมค่ะ เดิมเราแพลนไว้ว่าอยากรับตัวตรงสนามหญ้า แต่เวลานั้นแดดค่อนข้างร้อน เราไม่อยากให้ญาติและเพื่อน ๆ ฝั่งเจ้าสาว ต้องยืนกลางแดดนาน เพราะเขาต้องกั้นประตูเงิน-ประตูทองด้วยค่ะ
หลังจากเบียร์ผ่านทุกประตูเรียบร้อย เขาจะรับตัวมิ้นไปที่ห้องหมั้น เพื่อกลับมาทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน และปิดท้ายด้วยพิธียกน้ำชา และมอบของรับไหว้ค่ะ
ด้วยความที่เรากังวลว่าแขกที่มาในช่วงเช้าจะหิวกัน นอกจากคอฟฟี่เบรกแล้ว เราจึงเพิ่มซุ้มอาหารของทางโรงแรม ทั้งเมนูข้าวมันไก่และราดหน้ามาไว้ด้วยค่ะ
เมื่อถึงกำหนดการงานเลี้ยงฉลองช่วงเย็น เราจะถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอปกับแขกที่มาร่วมงานค่ะ ระหว่างนี้จะมีนักแซกโซโฟนมาเป่าเพลงคลอไปกับบรรยากาศตลอดงานค่ะ ช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้กับงานเราได้มาก
เมื่อถ่ายรูปกับแขกเสร็จแล้ว ด้านในจะเริ่มฉายวิดีโอพรีเซนเทชั่นของงานเช้า และเปิดตัวบ่าวสาวเดินขึ้นเวทีด้วยกันค่ะ จากนั้นพิธีกรจะเชิญประธานกล่าวคำอวยพร และด้วยความที่เราไม่อยากให้งานยืดเยื้อ คิวต่อไปเราจึงพูดความในใจต่อกันเพียงเล็กน้อยค่ะ
เมื่อถึงช่วงไฮไลต์ เราจะเดินลงไปรินแชมเปญทาวเวอร์ด้านล่าง จากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปบนเวที เพื่อโยนช่อดอกไม้ และกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงานค่ะ
หลังจากจบพิธีการ เราจะไปเปลี่ยนชุดสำหรับงาน After Party โดยระหว่างนี้ นักแซกโซโฟนจะรับช่วงเพื่อเล่นเพลงต่อ เพราะระหว่างที่บ่าวสาวยังไม่ลงมา แขกอาจพูดคุยกันอยู่ เราคิดว่าการใช้ดนตรีบรรเลงคลอเคล้าไปด้วยน่าจะสร้างบรรยากาศได้ดีค่ะ
พอเรากลับเข้ามาอีกครั้ง ก็ถึงคิวปล่อยให้วงดนตรีขึ้นมาเล่นกันสด ๆ และสนุกสนานเต็มที่ค่ะ โดยอาหารจัดเลี้ยงช่วงงานฉลองจะเป็นบุฟเฟ่ต์นานาชาติ ที่เราปล่อยให้แขกได้ทานเรื่อย ๆ จนถึงงานปาร์ตี้เลยค่ะ
บ่าวสาวปลื้มงานแต่งตรงใจ ไม่มีอะไรที่ผิดพลาดในวันงาน
เราประทับใจทุกอย่างในงานเลยค่ะ ตั้งแต่การได้เห็นรอยยิ้มจากเพื่อน ๆ และญาติผู้ใหญ่ที่มาร่วมงาน ทุกคนต่างมีความสุข และชมว่างานสวย อาหารรสชาติดี แถมเรายังปลื้มใจที่พอจบพิธีก็ยังเห็นแขกอยู่ในงานกันเต็มทุกโต๊ะเลยค่ะ
เรารู้สึกว่างานวันนั้นไม่มีตรงไหนที่พลาดเลย ต้องชื่นชมทุกทีมงานที่พร้อมใจช่วยเหลือ ทำให้งานออกมาราบรื่นค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ทีมรันคิว นักดนตรี โฟโต้บูธ ไปจนถึงทางโรงแรมที่คอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือเสมอ อย่างเวลาเราคุยกับคุณเบน เซลล์ของโรงแรม หากมีข้อสงสัย สอบถามอะไรไป เขาจะตอบแชทเร็วมากค่ะ หรือถ้าเราขออะไรไป เขาก็พยายามอำนวยความสะดวกให้เราเต็มที่ โดยรวมแล้ว เราทั้งคู่มองว่างานออกมาตรงใจและผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ
คำแนะนำสำหรับบ่าวสาว
ลำดับความสำคัญของงบแต่ละส่วน : ถ้าไม่อยากให้งบบานปลาย ลองดูว่าเราให้ความสำคัญกับอะไร ก็ลงทุนกับสิ่งนั้น แล้วไปประหยัดส่วนอื่นแทน หรือพิจารณาตามความเหมาะสมค่ะ
คุยกันเยอะๆ ว่าใครชอบอะไร : ช่วงเตรียมงาน บ่าวสาวควรแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจน ว่าใครรับผิดชอบส่วนไหน และคุยกันว่าแต่ละคนมีสไตล์หรือความชอบอะไร หากความชอบหรือความเห็นไม่ตรงกัน การหาข้อสรุปกันตรงกลางจะดีที่สุด และอยากให้คำนึงถึงแขกเป็นสำคัญด้วย
รู้จักปล่อยวางและสนุกให้เต็มที่ : ในช่วงเตรียมงาน บ่าวสาวควรเตรียมแผนสำรองไว้สำหรับเหตุสุดวิสัย แต่เมื่อถึงวันงานแล้ว อยากให้เชื่อมั่นและไว้วางใจในทีมงานต่าง ๆ ปล่อยให้เขาได้ทำงานไป หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นจริง ๆ อย่าไปนอยด์หรือเครียดกับสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ อยากให้ปล่อยวางและยิ้มเยอะ ๆ เพราะวันนั้นเป็นวันสำคัญที่บ่าวสาวควรมีความสุข
ลงทุนกับช่างภาพและวิดีโอ : อยากให้ลงทุนกับช่างภาพและวีดิโอ เพราะจะเป็นสิ่งเดียวที่เหลือไว้หลังจากงานจบ และถ้าได้เจ้าที่ถูกใจแล้ว ควรรีบจองเลยตั้งแต่เนิ่น ๆ ยิ่งเป็นช่างภาพชื่อดัง คิวก็จะเต็มไวมาก
Photographer : White Balance
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
สถานที่แต่งงาน:
Le Meridien Suvarnabhumi, Bangkok Golf Resort & Spa