เตรียมงานแต่งสบายๆ กับทีมแพลนเนอร์มากประสบการณ์
ก่อนได้แต่งงานวันที่ 27 พฤศจิกายน แนตเลื่อนฤกษ์มาแล้วจากเดือนตุลาคม เนื่องจากช่วงนั้นมีมาตรการป้องกัน COVID-19 ออกมาว่าสามารถจัดงานที่รวมตัวกันได้แค่ 50 คน แนตคุยกับพี่เทอร์โบ(เจ้าบ่าว) ว่าอยากลองเสี่ยงเลื่อนดูเผื่อมีโอกาสจัดงานที่มีแขกมากกว่านี้ เพราะเรามีเพื่อนเยอะมาก ก็อยากให้เพื่อนมาได้ครบทุกคน เราตั้งใจว่าจะมีแขกอย่างน้อย 500 คน แต่วันที่เลื่อนมาประกาศผ่อนปรนสามารถจัดงานที่มีจำนวนแขกได้หลักร้อยเท่านั้น แม้จะไม่ถึงตามจำนวนที่คาดไว้ แต่แนตคิดว่าดีที่สุดแล้ว จึงตัดสินใจไม่เลื่อนงานแล้วค่ะ(หัวเราะ)
การต้องปรับงานให้มีขนาดเล็กลง ประกอบกับเราไม่มีประสบการณ์แต่งงานมาก่อนก็แอบเครียดเหมือนกันค่ะ แต่ยังดีที่เราได้แพลนเนอร์ที่ดีและมีประสบการณ์เยอะอย่าง PaR Wedding Planner มาช่วยดูแล เป็นที่ปรึกษาให้ เขาให้คำแนะนำดีๆ มากมาย ช่วยจัดการแก้ปัญหาในการปรับรูปแบบงาน ทำให้เราลดความตึงเครียดในการเตรียมงานไปได้มากเลยค่ะ
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี นำสื่อโซเชียลมาเพิ่มกิมมิค
ต้องยอมรับว่าเราเข้าสู่ยุคนิวนอร์มัลเต็มตัว ดังนั้นการจัดงานแบบ Micro Wedding อาจกลายเป็นเทรนด์แล้วก็ได้ เพราะอย่างเคสของแนตเอง พองานแต่งถูกปรับขนาดลงและยังพบกับความไม่แน่นอนของสถานการณ์ ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนใหม่หลายส่วนเลย รวมถึงการประยุกต์นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ด้วย
อย่างเช่น ในส่วนการ์ดแต่งงาน หากพิมพ์การ์ดเป็นกระดาษ อาจต้องแก้กันไปมาไม่รู้จบ แนตจึงปรับเป็น E-Card และส่งเชิญแขกทางไลน์ พร้อมครีเอทไลน์สติ๊กเกอร์เป็นรูปบ่าวสาวเพื่อไปทักทาย แสดงถึงความน่ารักและใส่ใจ แต่ถ้าแขกไม่เล่นโซเชียลก็ใช้วิธีโทรเชิญ แล้วเราก็ยังมีเว็บไซต์ไว้แจ้งอัพเดทงานแต่งของเราด้วยค่ะ
นอกจากนี้เรายังมีกิมมิคเพิ่มความน่าสนใจด้วยการสร้าง IG filter ที่มีรูปบ่าวสาว เป็นเอฟเฟกต์ไว้ใส่ตอนถ่ายรูปไอจีสตอรี่ขึ้นมาด้วย ซึ่งพอแนตคิดไอเดียนี้ได้ก็ไปปรึกษาทีม PaR Wedding Planner แล้วปรากฎว่าเขาทำให้ได้และทำได้ดีมาก จุดนี้ก็เลยทำให้งานเป็นไปอย่างที่หวังมากขึ้น แขกจะมาร่วมงานได้หรือไม่ เขาก็สามารถใช้ไอจีฟิลเตอร์ที่มีรูปคู่เราล้อมกรอบอยู่ เสมือนว่ามีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ได้ค่ะ
ในส่วนมาตรการป้องกัน COVID-19 เราก็ยังคงเข้มงวดนะคะ ก่อนจัดงานมีให้ทำแบบสอบถามว่าแขกท่านใดฉีดวัคซีนบ้าง มีการแจ้งมาตรการป้องกันโควิดผ่านสื่อโซเชียล และวันงานก็มีสำรองที่ตรวจ ATK ให้สำหรับใครที่ไม่มั่นใจ ทั้งนี้ก็เพื่อคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยและเพื่อความสบายใจของแขกผู้ใหญ่ด้วยค่ะ นอกจากนี้ของชำร่วยแนตก็พยายามเลือกของที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อได้ จึงเลือกเป็นแอลกอฮอล์และแฮนด์ครีมใส่ถุงผ้าอย่างดีเลยค่ะ
สถานที่แต่งงาน Minimal สวย สบายตา โอบล้อมด้วยความอบอุ่น
สำหรับสถานที่แต่งงาน เนื่องจากเราไม่ชอบความเป็นโรงแรมที่ดูทางการเกินไป อยากได้ฟีลสวยแบบโฮมมี่ ซึ่งพอดีเคยได้มางานแต่งงานของเพื่อนที่ AUBE(โอบ) แล้วชอบบรรยากาศมาก อีกทั้งยังใกล้บ้านครอบครัวทั้งสองฝ่ายพอดี ทำให้การเดินทางไม่ลำบาก ก็เลือกตัดสินใจแต่งงานที่นี่ค่ะ
เน้นโทนสีนู้ด เบจ น้ำตาล สร้างพื้นที่อบอุ่นและเป็นกันเอง
ส่วนของการตกแต่งแนตเลือกใช้ธีมสีโทนอุ่นอย่างสีนู้ด เบจ น้ำตาล เพราะนอกจากจะเป็นสีที่ชอบ ยังเป็นสีที่ล้อไปกับสถานที่ด้วย โดยภายในงานจะเดินเรื่องผ่านโลโก้ชื่อเราสองคน ซึ่งโลโก้นี้ยังถูกนำไปใช้จริงติดไว้หน้าเรือนหอด้วยค่ะ
สำหรับการตกแต่งเราเน้นเส้นสายโครงสร้างที่ดูมีมิติและแซมดอกไม้เพิ่มความสวยงามประมาณ 40% โดยจะนำไปตกแต่งหลักๆ คือส่วนฉากหลังห้องหมั้นและฉากหลังห้องเลี้ยงฉลอง ซึ่งส่วนของห้องพิธีหมั้นเมื่อทำพิธีช่วงเช้าเสร็จแล้วจะถูกปรับเปลี่ยนเป็นห้องลงทะเบียน และฉากหลังที่อยู่ด้านหลังจุดทำพิธีจะปรับเป็น Backdrop ไว้ถ่ายภาพร่วมกับแขกค่ะ
พิธีการเรียบง่าย เน้นกิมมิคและใส่ใจดีเทลเป็นพิเศษ
งานของแนตเป็นหมั้นเช้าฉลองบ่าย ตามกำหนดการเริ่มเวลา 8:00 น. โดยเจ้าบ่าวจะแห่ขันหมากผ่านประตูเงินประตูทองมารับเจ้าสาวที่รออยู่ตรงบันไดวน ซึ่งจุดนี้แนตสามารถเห็นทุกภารกิจที่เจ้าบ่าวต้องทำเพื่อผ่านด่านกั้นประตูได้ด้วยค่ะ
เมื่อเจ้าบ่าวรับตัวเจ้าสาวแล้วก็จะพาเข้าไปยังห้องทำพิธีสู่ขอ มอบสินสอด สวมแหวน และยกน้ำชา ต่อมาก็จะมีการย้ายเฟอร์นิเจอร์อีกครั้งสำหรับทำพิธีรดน้ำสังข์ โดยเราเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมดประมาณ 10:30 น. จากนั้นก็เชิญแขกไปห้องจัดเลี้ยงค่ะ
ตอนย้ายห้องแนตกับเจ้าบ่าวจะไปเปลี่ยนชุดสำหรับงานฉลอง ซึ่งช่วงนี้เราไม่อยากให้เดดแอร์จึงจัดกิจกรรมให้แขกสามารถเพลิดเพลินได้ ไม่ว่าจะเป็นซุ้ม Photo Booth บูธชานมไข่มุกและบูธครัวซองต์ ไว้ด้านนอกห้องจัดงานค่ะ
และอีกความพิเศษที่น่าสนใจคือเราได้เพื่อนเจ้าบ่าวมาช่วยเป็นพิธีกรภาคสนาม อัดวิดีโอ พร้อมสัมภาษณ์ความรู้สึกของแขกที่มาในงาน จึงทำให้แนตได้เห็นโมเมนต์น่ารักๆ ในระหว่างที่บ่าวสาวไปเปลี่ยนชุดด้วยค่ะ ซึ่งช่วงเวลานี้เราได้ PaR Wedding Planner มาช่วยดูแลความเรียบร้อย จัดระเบียบในงาน ก็เลยไม่มีปัญหาหรือความวุ่นวายเลยค่ะ
สำหรับช่วงเลี้ยงฉลองนี้ เนื่องจากจำนวนแขกลดลง เราจึงลงดีเทลในงานได้มากขึ้น จึงใส่ใจรายละเอียดไปถึงเมนูอาหาร มีการทำ Table List ให้แขกทุกท่านว่าใครสามารถทานอะไรได้และไม่ได้บ้าง ตลอดจนจัดทำเมนูเฉพาะ โดยอาหารจัดเลี้ยงเป็นคอร์ส 4 รายการ เริ่มตั้งแต่ของว่าง ของคาว ซุปและของหวานค่ะ
ช่วงงานเลี้ยงฉลอง ตอนเปิดตัวแนตจะเดินเข้าห้องพร้อมคุณพ่อ ส่วนเจ้าบ่าวจะเดินมารับตัวแนตพร้อมร้องเพลง "เพราะอะไร" (เวอร์ชั่นพี่ก้อง นูโว) และจูงมือขึ้นเวทีไปด้วยกัน จากนั้นก็เข้าพิธีการที่มีประธานกล่าวคำอวยพร ตัดเค้ก จบแล้วก็ย้ายออกไปโยนดอกไม้กันด้านนอก ซึ่งตรงนี้เราเพิ่มความพิเศษขึ้นมาหน่อย คือมีแจกรางวัล Gift Voucher ที่พักหัวหิน 2 วัน 1 คืน บอกเลยว่าเป็นพิธีปิดท้ายที่สนุกจัดเต็มมากค่ะ(หัวเราะ)
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในงานคือที่สุดของความประทับใจ
แนตประทับใจทุกอย่างในงานจนไม่รู้จะยกมาพูดหมดไหม อย่างแรกคงเป็นทีม PaR Wedding Planner ค่ะ เขาช่วยให้งานแต่งเราผ่านไปด้วยดี สบายมากขึ้นเยอะ แล้วด้วยความที่เราไม่เคยมีประสบการณ์แต่งงานมาก่อน โอกาสทะเลาะกันจึงเกิดขึ้นได้ง่าย ซึ่งเขาผ่านงานมามากจึงเข้าใจและพยายามไกล่เกลี่ยให้ตลอด คอยให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาอย่างดี แนตชอบที่เขาใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องรองเท้ากัด เขารีบนำยามาทาให้ หลายคนอาจมองว่าไม่สำคัญ แต่แนตมองว่ามันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ไม่ควรมองข้าม และการที่เขาใส่ใจในจุดเล็กๆ อย่างนี้ นั่นแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่แท้จริง รู้สึกเลยว่าเขาเต็มที่กับคู่เรามากๆ ค่ะ
ส่วนช่างภาพก็มีความเป็นกันเอง ถ่ายภาพเต็มที่มาก แล้วยังช่วยบิ้วอารมณ์ให้เราได้ภาพวันงานที่ออกมาสวยเป็นธรรมชาติสุดๆ สำหรับสถานที่ นอกจากจะสวยถูกใจ ทีมงานก็ยังเป็นมืออาชีพและช่วยรีเช็คงานให้ทุกอย่าง เรื่องอาหารเอง ทั้งๆ ที่ก่อนวันงานต้องทำแบบสอบถามเกี่ยวกับการแพ้อาหารหรือข้อจำกัดอื่นๆ ของแขก ซึ่งจะมีความจุกจิก แต่ทางแคทเทอริ่งก็ช่วยเหลือเป็นอย่างดี งานนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของแขกทุกคนและได้รับคำชมว่างานของเราใส่ใจในรายละเอียดดีมาก ต้องขอบคุณทุกทีมงานและการช่วยเหลือของเพื่อนๆ จากใจเลยค่ะ
สุดท้ายนี้ขอพูดถึงโมเมนต์ซึ้งๆ ที่ประทับใจจนแนตและพี่เทอร์โบร้องไห้เลย อย่างของแนตเป็นจังหวะที่เพื่อนสนิทกันตั้งแต่สมัยมัธยม รู้จักกันมา 20 กว่าปี มาพูดความในใจ คือพูดไม่กี่คำแนตก็ร้องไห้แล้ว เพราะในคีย์เมสเสจนั้นแสดงถึงความจริงใจซ่อนอยู่ ส่วนฝั่งเจ้าบ่าวจะเป็นการเสียน้ำตากับเรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัวที่ได้คุณป้าฝั่งคุณพ่อออกมาพูดได้ซึ้งกินใจ จนเรียกได้ว่าใครที่ได้ฟังช็อตนี้น่าจะเสียน้ำตากันทั้งงาน ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลในวันนั้นแนตมีความสุขมาก เพราะแขกที่มาร่วมงานเป็นคนที่เรารักและมีบทบาทสำคัญในชีวิตเราทุกคนเลยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
Wedding Planner มีประโยชน์มากกว่าที่คิด : เขามีประสบการณ์และคอนแทคซัพพลายเออร์มากกว่าบ่าวสาว ดังนั้นเขาจึงช่วยเหลือเราได้มาก เช่น การหาซัพพลายเออร์ เขาสามารถติดต่อให้ได้ในงบที่น้อยว่าที่บ่าวสาวหาเอง ช่วยเซฟคอร์ส แถมสะดวกมากขึ้น ที่สำคัญยังช่วยลดความกังวล เพราะเขาจะคอยเตือน คอยรีเช็คการเตรียมของ เตรียมงานต่างๆ รวมถึงยังช่วยเวลาบ่าวสาวมีความเห็นไม่ตรงกัน ช่วยหาทางออกและแก้ปัญหาให้ได้ดีมาก แนะนำว่าควรจ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ไว้เลยค่ะ
สร้างความเข้าใจด้วยการคุยกับทุกฝ่ายให้เยอะ : การแต่งงานเป็นเรื่องของบ่าวสาวก็จริงแต่พอจัดงานจริงๆ จะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดของครอบครัว-ผู้ใหญ่ตามมา ซึ่งเราไม่สามารถทําให้ทุกคนถูกใจได้ ฉะนั้นต้องคุยกันให้เยอะๆ พยายามปรับความเข้าใจ เน้นสรุปและหาจุดกึ่งกลางร่วมกัน เพื่อให้วันงานมีแต่ความราบรื่นและผู้ใหญ่ก็รู้สึกดีไปกับสิ่งที่เห็นในงานด้วยค่ะ
ทุกปัญหาย่อมมีทางออก : การจัดงานช่วงนี้มีความไม่แน่นอน แขกต้องทำความเข้าใจ บ่าวสาวต้องเรียนรู้และปรับตัว อย่ากลัวเกินไป แล้วทุกปัญหาจะมีทางออกในแบบของมันเองเสมอค่ะ
เตรียมแผนและเตรียมใจ : COVID-19 ไม่หายไปง่ายๆ อยากให้ปรับตัวและเตรียมแผนหนึ่งแผนสอง อย่างถ้ารู้ว่าจะจัดงาน สิ่งที่ควรหาเนิ่นๆ คือวันแต่งงาน ชุดและสถานที่ เพราะคิวจะเต็มเร็ว ถ้าได้ 3 อย่างนี้แล้ว อย่างอื่นแม้จะมีการปรับเปลี่ยนก่อนวันงานเพียง 1 เดือน ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากเป็นเรื่องปกติที่เมื่องานใกล้เข้ามาเราจะเห็นภาพรวมของงานชัดเจนขึ้นว่าจะเอาแบบไหนและมีการปรับแก้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันหากเกิดความเปลี่ยนแปลงจริงๆ ก็อยากให้เตรียมใจเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงด้วย อย่าเครียดเกินไป พยายามหาข้อดีด้านอื่นมาทดแทนสิ่งที่อยากทำไว้ ก็พอรักษาจิตใจให้ดีขึ้นได้ค่ะ