Kimpton Maa-Lai Bangkok สถานที่แต่งงานบริการประทับใจ
เราเลือกจัดงานแต่งที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok (คิมป์ตัน มาลัย กรุงเทพฯ) เพราะชอบธรรมชาติและบรรยากาศของสถานที่ค่ะ ซึ่งจริงๆ ตอนแรกเราตั้งใจจะไปจัดงานที่เขาใหญ่ เพราะคิดว่าในกรุงเทพฯ จะไม่ตอบโจทย์เรื่องความเป็นธรรมชาติและความรู้สึกสบายกับแขกที่มาร่วมงาน แต่พอมาเจอสวน Urban Oasis ของที่นี่แล้วถึงกับเปลี่ยนใจ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ การเดินทางที่สะดวกกับแขก เหมาะจะเป็นภาพความทรงจำในวันสำคัญที่สุดในชีวิตเราจริงๆ ค่ะ
งานของเราจัดแบบหมั้นบ่ายเลี้ยงเย็นค่ะ โดยใช้พื้นที่จัดงาน 2 ส่วน คือห้อง Grand Studio สำหรับจัดงานหมั้น ซึ่งภายในห้องสามารถมองเห็นวิวสวน แถมมีแสง Daylight ทำให้บรรยากาศอบอุ่น เพราะพิธีการของเรา Simple มาก เชิญแขก 50 คน มีแค่ญาติผู้ใหญ่และเพื่อนสนิทจริงๆ ค่ะ
แถมการตกแต่งดอกไม้ในช่วงพิธีการ ทางโรงแรมสามารถจัดได้ตามสีที่เราต้องการ และดอกไม้ที่เลือกมาก็ประทับใจ รสนิยมดีมากเลยค่ะ
Urban Oasis สวนสวย บรรยากาศอบอุ่น
ส่วนที่ 2 สำหรับจัดงานเลี้ยงเย็นคือสวนชื่อว่า Urban Oasis เรียกว่าเป็นไฮไลท์เลยค่ะ โดยเฉพาะสระบัว ซึ่งเวลาถ่ายรูปออกมาจะมี Reflection บนผิวน้ำที่สวย และต้นหลิวที่พริ้วตามลม ทำให้บรรยากาศดูอ่อนหวานและซอฟท์มาก แถมไม่อึดอัดเลย พื้นที่ลงตัวสุดๆ กับจำนวนแขก 200 กว่าคนค่ะ
เนื่องจากสวนมีความสวยงามอยู่แล้ว เราจึงไม่ได้มีการตกแต่งอะไรมาก ประดับแค่ดอกไม้ตรงที่ถ่ายรูปและซุ้มตรงตรงเวที นอกนั้นจะตกแต่งด้วยไฟปิงปอง ซึ่งบรรยากาศมันดูอบอุ่นเป็นกันเองมากค่ะ
เราเข้าดูข้อมูลในเว็บ SabuyWedding อยู่ตลอดค่ะ รู้จักเว็บนี้เพราะเพื่อนที่กำลังจะแต่งงานแนะนำมา พอเราเข้าไปดูก็ชอบ คอนเทนต์ดี มีรีวิวเรื่องสถานที่เยอะ ทำให้เราเตรียมงานง่ายขึ้น อย่างคอนเทนต์วิธีการเตรียมงาน 10 ขั้นตอน เราก็มาดูว่าจาก 10 ข้อนี้เราเหลือกี่ขั้นตอนที่ยังไม่ได้ทำ เรียกว่า SabuyWedding เป็นเว็บไซต์หลักๆ ที่เราทำการบ้านเลยค่ะ (หัวเราะ)
คอนเซ็ปท์ Plant the Love in the Garden
คอนเซ็ปท์งานของเราจะเป็นการปลูกความรักลงไป รวมถึงแขกก็มาร่วมปลูกความรักไปกับเราด้วยค่ะ ซึ่งเราไม่ได้ใช้ Wedding Planner เลยเพราะโตมากับการจัดงานอีเวนท์อยู่แล้วจึงคิดเองทั้งหมด และส่งต่อให้น้องๆ ที่ทำงานด้วยกันให้มาช่วยรันคิวค่ะ
ของชำร่วยของของเรา Tropical มาก เป็นหมอนขิดจากอำเภอดัง และปลอกหมอนที่คุณแม่เป็นคนเย็บเองค่ะ มีการ์ดที่เล่าสตอรี่ว่าทำไมต้องเป็นของชิ้นนี้ และเอาใส่ถุงที่สกรีนเป็นโลโก้งานของเราค่ะ
นอกจากนี้อีกหนึ่งในไฮไลท์ของ Kimpton Maa-Lai Bangkok คือเรื่องอาหารค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารในเซ็ตพิธีการงานหมั้น หรือเป็นซุ้มในงานเลี้ยงฉลอง เราเลือกเมนูที่เบสิคมากแต่อร่อยทุกอย่างเลย ซึ่งข้าวกระเพราเนื้อไข่ดาวเป็นเมนูที่แขกพูดถึงที่สุดค่ะ
อีกอย่างที่ชอบคือเรื่องเค้กแต่งงาน เพราะเราอยากได้เค้กที่สามารถทานได้จริงๆ จึงให้น้องคนสนิทเป็นเชฟจากนิวยอร์กมาทำให้ คือเค้กแครอทแอปเปิลที่ประดับด้วยดอกไม้ที่ทานได้จริงๆ จากสวนของเขาทั้งหมด ซึ่งเป็นเค้กยอดนิยมของร้านเขาเลยค่ะ อร่อยมากๆ
ในส่วนของพิธีการงานเลี้ยงเป็นแบบทั่วไปเลยค่ะ เรียบง่ายมากแต่มีความสุขที่สุด ตอนที่เดินเข้างานมาแล้วเห็นหน้าทุกคนที่เรารัก มันทำให้รู้สึกตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้เลยจริงๆ ค่ะ
งานนี้เราประทับใจมากค่ะ โดยเฉพาะสถานที่เพราะทุกอย่างมันลงตัวมาก ตั้งแต่การให้บริการของเซลล์จนถึงพนักงานต้อนรับ แสดงให้เห็นถึงการทำงานของทีมเวิร์ค เพราะการเตรียมงานต้องอาศัยการ Logistic ที่ซับซ้อน ซึ่งทางทีมก็ประสานงานออกมาได้ดีเยี่ยม และซัพพอร์ตเราด้วยใจจริงๆ ทำให้การจัดงานครั้งนี้รู้สึกอบอุ่น คิดว่าถ้ามีโอกาส ในวันครบรอบแต่งงานก็อยากกลับมาใช้เวลาดีๆ ที่ Kimpton Maa-Lai Bangkok อีกครั้งค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
ไม่ต้องเครียดและปล่อยวาง : ในวันงานเราควรที่จะปล่อยวางให้เยอะๆ เพื่อที่จะได้มีความสุขจริงๆ ในวันสำคัญกับคนที่เรารักค่ะ เพราะทุกอย่างมันไม่มีอะไรเพอร์เฟ็กต์ 100% อยู่แล้ว ขอแค่คนที่เราไว้ใจมารันงานให้ ทำด้วยความไม่เครียดและมีความสุข ทุกอย่างจะออกมาดีแน่นอนค่ะ
ข้อระวังเรื่องที่นั่ง : อยากให้โฟกัสเรื่องที่นั่งสำหรับแขกยืน ควรมีสำรองไว้ด้วยค่ะ เพราะบางทีจะมีแขกที่เขามากับลูกๆ อยากให้เขาได้มีที่พักผ่อนรีแลกซ์ค่ะ
Bride Tips
เนื่องจากเราจัดงาน Outdoor ในสวน แขกทุกท่านที่เราเชิญมาล้วนเป็นญาติ เพื่อน และผู้ใหญ่ที่เราเคารพ ดังนั้นเราจึงใส่ใจในเรื่อง
สถานที่ ต้องเดินทางสะดวก มีที่จอดรถ และเราต้องสื่อสารกับเขาเรื่องการเดินทางให้ดีก่อนวันงาน
บรรยากาศต้องดี น่าประทับใจในแบบของเรา
อาหาร เครื่องดื่มที่คัดมาต้องรสชาติดีและใช้ของคุณภาพ เพื่อให้คนที่เรารักทานและอร่อยไปด้วยกัน
หากิจกรรมเล่นเกมส์เล็กๆ น้อย ให้แขกได้ Interact และ Engage ไปกับงาน
ของที่ระลึกท้ายงาน ที่เราตั้งใจหาให้แขกประทับใจ ถ้าเป็นของชิ้นใหญ่ก็ควรหาถุงดีๆ ใส่เพื่อให้แขกนำกลับบ้านอย่างสะดวกสบาย
ดนตรีสำคัญ เพราะเป็นตัวสร้าง Vibe และ Memory ในงาน