รีวิวงานแต่งธีม Royal Green สวยไม่ซ้ำ ทั้งพิธีหมั้นและเลี้ยงฉลอง @ AUBE

AUBE สถานที่แต่งงานสไตล์มินิมอล จัดได้ทั้งอินดอร์ เอาท์ดอร์

        งานแต่งงานวันนี้ถูกเลื่อนมาหลายครั้งด้วยเหตุผลส่วนตัวและสถานการณ์โควิด 19 แต่แม้จะเลื่อนการจัดงานนานแค่ไหน สถานที่ที่เป็นช้อยส์เดียวในใจก็คือ AUBE (โอบ) ค่ะ คือมิ้นท์เห็นในโซเชียลตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จก็ชอบ แล้วตั้งตารอให้สร้างเสร็จมาตลอดเลย 

       ซึ่งพอเราได้ไปดูสถานที่จริงบอกเลยว่าถูกใจ เพราะที่นี่ตอบโจทย์ได้ตรงความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์สไตล์มินิมอล ตัวห้องจัดงานแบ่งส่วนชัดเจน ง่ายต่อการเลือกประเภทจัดงานและจัดการแขกได้ดี ที่สำคัญสถานที่สวยอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องตกแต่งอะไรมากเลย นอกจากนี้ยังมีพื้นที่หลายส่วนให้เดินชมและมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย คิดว่าถ้าแต่งงานที่นี่แขกจะไม่เบื่อและสามารถเอ็นจอยไปกับงานเราได้แน่นอนค่ะ

จัดงานแต่งสวย 3 พิธี 3 บรรยากาศ 

       เราสองคนอยากให้มู้ดแอนด์โทนของงานดูสวยธรรมชาติและมีความคลาสสิกในตัว จึงเลือกสีเขียวและขาวเป็นสีหลักในการตกแต่ง โดยจะเน้นใช้ใบไม้มากกว่าดอก ซึ่งงานวันนี้ มิ้นท์จัดเป็นหมั้นเช้า เลี้ยงเที่ยงและฉลองเย็น จึงใช้ห้องทำพิธี 2 ห้องหลักด้วยกันคือ Suntouch และ Moonstruck ค่ะ

       ส่วนของพิธีหมั้นเราใช้ห้อง Moonstruck ค่ะ ด้วยงานเช้ามีแขกผู้ใหญ่ที่เคารพเยอะ เน้นพิธีการ มิ้นท์เลยไม่อยากตกแต่งมากเกินจนดึงความสนใจไปจากพิธีการ ​จึงได้นำ Backdrop ถ่ายรูปงานเย็นมาครีเอทปรับใช้เป็นเวทีงานเช้าด้วย โดยจะนำโครงสร้าง Backdrop สีขาวมาตั้งไว้ แล้วประดับป้ายชื่อบ่าวสาวเข้าไป ส่วนหน้าเวทีก็จะเรียงเก้าอี้ไว้รับรองแขก 80 คนค่ะ

       พิธีการช่วงนี้จะเริ่มที่เจ้าบ่าวแห่ขันหมากผ่านเกมกั้นประตูที่แต่ละด่านเล่นเอาเจ้าบ่าวเหงื่อตกเลยค่ะ(หัวเราะ) มีอยู่ด่านหนึ่งให้ทำภารกิจต่อตัว เขาก็ยอมทำนะคะ เขาบอกว่าตลกดี ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอผ่านมาได้ก็เข้าห้องไปทำพิธีสู่ขอ จากนั้นก็ออกมารับตัวเจ้าสาวเพื่อกลับไปทำพิธีมอบสินสอด สวมแหวน รับไหว้ค่ะ

       สำหรับงานเลี้ยงเที่ยง เราจัดขึ้นเพราะอยากขอบคุณแขกที่มาช่วงเช้าค่ะ โดยจะย้ายมาใช้ห้อง Suntouch ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วจัดเลี้ยงเป็นแบบ Long Table เสิร์ฟอาหารเมนูไทย 4 คอร์ส ซึ่งการจัดเลี้ยงแบบนี้เป็นความฝันของมิ้นท์เลยนะคะ ส่วนการตกแต่งห้องนี้ เรายังคงเน้นใช้ใบไม้หลายสายพันธุ์จัดเต็ม และเลือกผ้าปูโต๊ะเป็นสีเขียวสุดคลาสสิก สวยเข้าธีมค่ะ

       การทานเลี้ยงช่วงนี้ เราจะมีเปิดตัวบ่าวสาว เพื่อนเจ้าบ่าวมาร้องเพลง Let's Stay Together ของ AI Green ที่เราชอบให้ แล้วก็มีช่วงให้เพื่อนทั้ง 2 ฝ่ายพูดความในใจกันด้วยค่ะ แต่ที่พิเศษคือจะมีช่วงพิธีกรเล่าสตอรี่ของจานที่เป็นของชำร่วย ซึ่งออกแบบโดยพี่สาวของเจ้าบ่าวด้วยค่ะ ทุกดีเทลในจานคือความเป็นเราสองคน ตั้งแต่เพลง Let's Stay Together ภาพ Brandenburg Gate กำแพงเข้าเมืองเบอร์ลิน จุดที่ช้าง(เจ้าบ่าว) ขอมิ้นท์แต่งงาน ต้นโอลีฟที่เราชอบ ใบมิ้นท์ที่สื่อถึงชื่อมิ้นท์ โดยจานจะวางไว้บนโต๊ะของแขกเลย แล้วพอเล่าจบ เราก็จะนำจานไปใส่กล่องสวยงามให้แขกนำกลับบ้านค่ะ

       ส่วนงานเลี้ยงตอนเย็น บนเวทีที่ใช้ตอนงานหมั้นในห้อง Moonstruck จะถูกดัดแปลงเป็น Backdrop ถ่ายภาพ โดยเราได้เพิ่มรายละเอียดด้วยการนำใบไม้ไปตกแต่งเพิ่มและเปลี่ยนสีผ้าพื้นหลังป้ายชื่อบ่าวสาวเป็นสีเขียวเข้ม ก็จะดูต่างไปจากงานเช้าเลยค่ะ แล้วใกล้ๆ กันจะเป็นจุดลงทะเบียน และ Photo Booth ซึ่งบอกเลยว่า แขกชอบ Photo Booth กันมาก โดยเฉพาะผู้ใหญ่ เหมือนเขาได้ย้อนไปเป็นเด็กอีกครั้งค่ะ

        ในห้อง Suntouch ที่ใช้ทานเลี้ยง ด้วยมีแขกเพิ่มเป็น 250 คน เราจึงได้เพิ่มโต๊ะ Long Table อีก 4 แถวด้วย แล้วเพราะเราอยากให้มีความแตกต่างกับตอนเที่ยงจึงได้นำเทียนไปประดับตามโต๊ะ ซึ่งตอนถึงเวลางาน เราเซอร์ไพรส์มาก แสงเทียนช่วยให้บรรยากาศงานดูสวยมีเสน่ห์และโรแมนติกขึ้นเยอะเลยค่ะ 

       นอกจากนี้บนโต๊ะเราก็ได้วางของชำร่วยที่เป็นต้นไม้ใส่ถุงผ้าขนาดเล็กไว้ด้วย เพราะไม่อยากให้แขกมายืนออกันที่จุดลงทะเบียน ซึ่งที่ให้ต้นไม้เพราะจะได้สอดคล้องกับแฮชแท็กงาน #Mintharingrowtogether คือการเติบโตไปด้วยกันค่ะ

       สำหรับพิธีการตอนเลี้ยงเย็นนี้ จะรันไปพร้อมกับเสิร์ฟอาหารตะวันตก 4 คอร์ส โดยจะเริ่มจากเปิดพรีเซนเทชั่นงานตอนกลางวัน แล้วต่อด้วยเปิดตัวบ่าวสาวที่เราสองคนจะเดินเข้าคนละฝั่งมาบรรจบกันตรงกลางห้องและขึ้นเวทีไปด้วยกัน จากนั้นก็จะเชิญประธานซึ่งเป็นหัวหน้าของเรามากล่าวคำอวยพร แล้วเราก็จะขอบคุณแขก พูดความในใจ และไปรดน้ำต้นโอลีฟแทนการตัดเค้ก ซึ่งต้นไม้นี้เราจะนำกลับไปปลูกต่อที่บ้านด้วยนะคะ แล้วหลังจากนี้ก็เป็นช่วงโยนช่อดอกไม้ปิดท้ายพิธีค่ะ

บรรยากาศงานดั่งฝัน เพราะทีมงานและสถานที่ดี 

       งานนี้เราชอบทุกอย่างที่เกิดขึ้นเลยค่ะ อย่างช่วงกลางวันบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสุข อบอุ่นจริงๆ เพราะช่วงนี้มีพี่และเพื่อนสนิทมาพูดความในใจซึ้งๆ หรือตอนเย็นที่รู้สึกประทับใจเมื่อมองเห็นแต่คนที่รักนั่งอยู่ใต้แสงเทียนในห้อง ฟีลสวย โรแมนติก และเป็นงานที่ดีกว่าที่คิดไว้มาก เราดีใจที่เห็นแขกทุกคนสนุก แฮปปี้ค่ะ

       นอกจากนี้ก็ประทับใจเพื่อนๆ ที่มีส่วนสำคัญและให้กำลังใจตลอด พวกเขาอยู่ในทุกช่วงเวลาของเรา พองานแต่งเกิดขึ้นจริง เขาก็ดีใจและมีความสุขไปกับเราด้วย ส่วน AUBE และซัพพลายเออร์ทุกทีมที่คอยช่วยเหลือดูแลและให้คำแนะนำมาตลอด 3 ปีที่เตรียมงาน เราก็อยากขอบคุณจริงๆ ค่ะ เพราะกว่าจะได้จัดงานนี้ เราติดต่อคุยกันตลอด จนเหมือนได้เพื่อนใหม่ไปโดยปริยาย แล้วเขาเต็มที่จนทำให้งานสมบูรณ์อย่างที่ต้องการเลยค่ะ

แนะนำบ่าวสาว

ศึกษาผลงานของซัพพลายเออร์ให้ละเอียด : ก่อนเลือกร้านหรือสถานที่แต่งงาน ต้องหาข้อมูล ดูรีวิวให้ละเอียด ถ้าเราเลือกร้านที่ดี วางใจในความเป็นมืออาชีพได้ จะเตรียมงานได้ง่ายและทุกอย่างจะออกมาดีค่ะ

เขียน Checklist ออกมาเป็นตัวหนังสือ : จะช่วยทำให้เราเห็นภาพชัดเจนว่าแต่ละขั้นตอนไปถึงไหน มีส่วนใดตกหล่นบ้าง หากเราไม่ร่างออกมา อาจจะวนในหัวไม่รู้จบค่ะ

Just enjoy the moment : ระหว่างเตรียมงาน เราใช้เวลาวุ่นไปกับการเตรียมสิ่งต่างๆ จนบ้างครั้งถึงขั้นเครียด ฉะนั้นเมื่อถึงวันแต่งงาน อยากให้ปล่อยวาง เพราะสิ่งสำคัญคือการที่บ่าวสาวมีความสุขค่ะ